สัญญาให้บริการอินเทอร์เน็ต (Express Net)
[EXPRESS NET SERVICE CONTRACT]
สัญญาให้บริการอินเทอร์เน็ต Express Net (“สัญญา”) นี้ มีผลใช้บังคับระหว่าง บริษัท ทีซี บรอดคาสติ้ง จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการ กับผู้ใช้บริการที่มีชื่อระบุไว้ในใบสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต Express Net (Application Form for Express Net) ด้านหน้าของสัญญานี้ ผู้ใช้บริการได้อ่านและเข้าใจเงื่อนไขและข้อตกลงการให้บริการในสัญญาซึ่งกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการจนเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ผู้ใช้บริการจึงตกลง ใช้บริการโดยลงลายมือชื่อในใบสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต Express Net (Application Form for Express Net) ดังกล่าว และให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้ตกลงทำสัญญากับผู้ให้บริการและยินยอมผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขในสัญญาฉบับนี้ทุกประการ
1. คำนิยาม

• 1.1. “ผู้ให้บริการ” หมายถึง บริษัท ทีซี บรอดคาสติ้ง จำกัด
• 1.2. “ผู้ใช้บริการ” หมายถึง หน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/องค์กร/นิติบุคคล/บุคคลธรรมดา ที่ประสงค์จะใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการ ซึ่งได้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตและได้รับอนุมัติการให้บริการจากผู้ให้บริการแล้ว
• 1.3. “บริการอินเทอร์เน็ต” หมายถึง การให้บริการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการกับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมโดยตรงถึงผู้ใช้บริการ ที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการ
• 1.4. “ระยะเวลาการใช้บริการ” หมายถึง ระยะเวลาที่ผู้ให้บริการจะให้ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในช่วงระยะเวลาดังที่ระบุในสัญญาข้อ 2.2
• 1.5. “วันครบกำหนดชำระค่าบริการ” หมายถึง วันสุดท้ายเดือนของก่อนหน้าเดือนที่ใช้บริการ โดยไม่คำนึงว่างวดแรกและงวดสุดท้ายของการใช้บริการจะมีกำหนดระยะเวลาครบ 1 (หนึ่ง) เดือนหรือไม่
• 1.6. “อุปกรณ์” หมายถึง ชุดอุปกรณ์ที่ให้บริการตามที่ระบุในข้อ 5.1 โดยผู้ให้บริการ ซึ่งถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้บริการ โดยผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิอื่นใดนอกจากสิทธิเพื่อการใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้
• 1.7. “ใบสมัคร” หมายถึง ใบสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต Express Net (Application Form for Express Net) ตามแบบที่ผู้ให้บริการกำหนด
• 1.8. “วันที่สมัคร” หมายถึง วันที่ผู้ใช้บริการได้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ระบุในใบสมัครและให้ถือว่าเป็นวันที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ
• 1.9. “วันติดตั้งอุปกรณ์” หมายถึง วันที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้ผู้ให้บริการนำอุปกรณ์ไปติดตั้ง ณ สถานที่ติดตั้งซึ่งผู้ใช้บริการระบุไว้ในใบสมัคร
• 1.10. “วันเริ่มใช้บริการ” หมายถึง วันที่อุปกรณ์ได้ติดตั้งเรียบร้อย และผู้ใช้บริการบริการสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้จริง และให้ถือเป็นวันที่เริ่มคิดค่าบริการ
• 1.11. “แพ็คเกจ” หมายถึง แพ็คเกจบริการอินเทอร์เน็ตหรือบริการอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการประกาศกำหนดไว้ที่ช่องทางประชาสัมพันธ์ของผู้ให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้ได้ตามที่ต้องการ ณ วันที่สมัคร ทั้งนี้ ผู้ให้บริการอาจเปลี่ยนแปลงแพ็คเกจดังกล่าวได้เป็นครั้งคราวหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. แล้ว
• 1.12. “ค่าบริการ” หมายถึง ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการอันเนื่องมาจากการใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้
• 1.13. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ชื่อ สกุล ที่อยู่ของผู้ใช้บริการ และให้หมายความรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ หรืออาจระบุตัวผู้ใช้บริการนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ข้อมูลการใช้บริการ และพฤติกรรมการใช้บริการอินเทอร์เน็ต/โทรคมนาคมของผู้ใช้บริการ
• 1.14. “กสทช.” หมายถึง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

2.การให้บริการอินเทอร์เน็ต

• 2.1. ในการขอเปิดใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้ ผู้ใช้บริการได้ยื่นใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วน พร้อมกับหลักฐานประกอบการสมัครตามที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ครบถ้วน และเมื่อผู้ให้บริการอนุมัติการให้บริการตามใบสมัครแล้ว ให้ถือว่าผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการตกลงทำสัญญาใช้บริการอินเทอร์เน็ตนี้ ตามแพ็คเกจที่ระบุไว้ในใบสมัคร
• 2.2. ผู้ใช้บริการจะต้องใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามข้อ 2.1 โดยมีกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำตามแพ็คเกจที่ผู้ใช้บริการระบุไว้ในใบสมัคร โดยการให้บริการอินเทอร์เน็ตให้เริ่มตั้งแต่วันเริ่มใช้บริการ (ตามนิยามข้อ 1.10) เป็นต้นไป
• 2.3. ภายหลังจากครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 หากผู้ใช้บริการไม่มีการบอกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ให้บริการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 (ห้า) วันก่อนครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ใช้บริการตกลงใช้บริการอินเทอร์เน็ตต่อไปแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา ตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการนี้ตามเดิมทุกประการ จนกว่าผู้ใช้บริการหรือผู้ให้บริการฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมีการบอกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อ 9
• 2.4. เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการใช้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้บริการรายอื่น ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการกำหนดเงื่อนไขการให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อการให้บริการอย่างเท่าเทียมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ใช้บริการส่วนรวมเป็นสำคัญ ทั้งนี้บริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้เป็นบริการแบบใช้ความเร็วรับ-ส่งข้อมูลร่วมกัน คุณภาพและความเร็วในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตขึ้นอยู่กับปริมาณหรือจำนวนผู้ใช้งานในขณะนั้น และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของบริการอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ผู้ใช้บริการต้องไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตผิดประเภท อาทิ ใช้งานในลักษณะแชร์โครงข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการค้าอีกทอดหนึ่งไปยังกลุ่มลูกค้าของตนเอง หรือใช้งานในลักษณะ ดาวน์โหลดหรืออัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่เพื่อการแชร์, ให้บริการสตรีมมิ่ง หรือ ใช้งานกล้อง CCTV (เป็นต้น) เป็นระยะเวลาต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการรายอื่นได้รับผลกระทบในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต หรือสร้างความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่งกับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการในภาพรวม ผู้ให้บริการมีสิทธิที่จะห้ามหรือระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ต หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนข้อตกลงนี้ เว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้รับความเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการก่อนทำการดังกล่าว และผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
• 2.5. ผู้ให้บริการจะจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ตามรายละเอียดในข้อ 5 ณ สถานที่ติดตั้งและภายในวันติดตั้งอุปกรณ์ (ตามนิยามข้อ 1.9)
• 2.6. เมื่อผู้ใช้บริการได้กรอกใบสมัครและยื่นต่อผู้ให้บริการแล้ว ให้ถือว่าผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธินำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร ไปใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการโทรคมนาคมได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศของ กสทช. ว่าด้วยมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอตรวจดู ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้อง หรือขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง หรือขอระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หรือขอเพิกถอนความยินยอมให้ประมวลผลได้โดยให้ทำคำขอเป็นหนังสือยื่นต่อผู้ให้บริการ หากผู้ให้บริการไม่ดำเนินการตามคำขอ ผู้ใช้บริการมีสิทธิทำหนังสือแจ้ง กสทช. เพื่อบังคับให้เป็นไปตามสิทธิของผู้ใช้บริการ และในกรณีที่ผู้ใช้บริการขอตรวจดู ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่สูงกว่าความเป็นจริงตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. ประกาศกำหนด

3. ค่าบริการ ค่าติดตั้งอุปกรณ์ และค่าธรรมเนียมแรกเข้า

• 3.1. ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการล่วงหน้าเป็นงวดรายเดือน และผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการล่วงหน้าเป็นงวดรายเดือนภายในทุกวันสิ้นเดือนของเดือนก่อนหน้าเดือนที่ใช้บริการ ตามอัตราค่าบริการที่ระบุในใบเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่คำนึงว่างวดแรกและงวดสุดท้ายจะมีการใช้บริการเต็มเดือนหรือไม่ หากวันเริ่มใช้บริการ ไม่ตรงกับวันที่ 1 ของเดือน ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าบริการตามสัดส่วนระยะเวลาการใช้บริการจริง ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะเริ่มคิดค่าบริการดังกล่าวนับตั้งแต่วันเริ่มใช้บริการ (ตามนิยามข้อ 1.10) เนื่องจากการให้บริการตามสัญญานี้จะเรียกเก็บค่าบริการล่วงหน้าก่อนใช้บริการ ดังนั้น การเรียกเก็บค่าบริการงวดแรกและงวดที่สองให้เป็นไปตามข้อ 3.1.1 และข้อ 3.1.2 ส่วนการเรียกเก็บค่าบริการงวดที่สามและงวดถัดๆ ไปจะเรียกเก็บตามใบเรียกเก็บค่าบริการตามข้อ 3.2
  3.1.1. สำหรับค่าบริการงวดแรกผู้ให้บริการจะจัดส่งใบเรียกเก็บค่าบริการให้แก่ผู้ใช้บริการหลังจากวันเริ่มใช้บริการ และมีวันครบกำหนดชำระค่าบริการงวดแรกตามที่ระบุไว้ในใบเรียกเก็บค่าบริการ และ
  3.1.2. สำหรับค่าบริการงวดที่สอง ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิเรียกเก็บค่าบริการงวดที่สองในวันที่สมัครทั้งนี้ ผู้ให้บริการรับรองว่า ผู้ให้บริการจะไม่เรียกเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใดๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในใบสมัครและสัญญานี้
  
• 3.2. ผู้ให้บริการจะจัดส่งใบเรียกเก็บค่าบริการให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 (สิบห้า) วันก่อนวันครบกำหนดชำระค่าบริการ และผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าบริการภายในวันครบกำหนดชำระค่าบริการที่ระบุในใบเรียกเก็บค่าบริการ
• 3.3. ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าติดตั้งอุปกรณ์ (ถ้ามี) และค่าธรรมเนียมแรกเข้า (ถ้ามี) ให้แก่ผู้ให้บริการ ณ วันที่สมัคร ตามอัตราที่ระบุไว้ในใบสมัคร
• 3.4. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการผิดนัดไม่ชำระค่าบริการภายในวันครบกำหนดชำระค่าบริการ ผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปีให้แก่ผู้ให้บริการ โดยให้คำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ผู้ใช้บริการผิดนัดชำระจนกว่าจะชำระค่าบริการครบถ้วน ทั้งนี้ ผู้ให้บริการสงวนสิทธิที่จะระงับหรือยกเลิกการให้บริการหากผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดในใบเรียกเก็บค่าบริการเป็นเวลา 2 (สอง) งวดติดต่อกัน
• 3.5. หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำแล้ว ผู้ให้บริการอาจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงค่าบริการจนทำให้อัตราค่าบริการใหม่สูงกว่าอัตราค่าบริการเดิมที่ผู้ให้บริการประกาศไว้ในวันที่สมัครโดยที่อัตราค่าบริการใหม่ได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. แล้ว ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบไม่น้อยกว่า 1 (หนึ่ง) รอบระยะเวลาการชำระค่าบริการ และการเปลี่ยนแปลงค่าบริการดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ แต่หากผู้ใช้บริการไม่ยินยอม ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอเปลี่ยนแพ็คเกจหรือยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทันที
• 3.6. หลังจากพ้นระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำแล้ว หากผู้ใช้บริการประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงแพ็คเกจ ผู้ใช้บริการจะต้องทำเป็นหนังสือถึงผู้ให้บริการ หรือทำตามขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแพ็คเกจและส่งไปยังช่องทางที่ผู้ให้บริการประกาศกำหนดไว้ ให้ผู้ให้บริการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 15 (สิบห้า) วันก่อนมีการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

3.7. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเลือกชำระค่าบริการกับตัวแทนรับชำระค่าบริการ เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นต้น ผู้ใช้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบชำระค่าธรรมเนียมการรับชำระค่าบริการ ตามอัตราที่ตัวแทนรายนั้นๆ กำหนด (ถ้ามี)

4. ภาษีอากร
ผู้ใช้บริการจะต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้ในอัตราตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ให้บริการตกลงให้ผู้ใช้บริการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากค่าบริการตามสัญญานี้ได้ และผู้ใช้บริการจะต้องส่งมอบหนังสือรับรองแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และรายละเอียดการหักภาษี ณ ที่จ่ายดังกล่าวพร้อมทั้งลงลายมือชื่อของผู้ใช้บริการให้แก่ผู้ให้บริการภายในระยะเวลาตามกฎหมายที่กำหนด
5. การจัดหาอุปกรณ์ สำหรับการเชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ต

• 5.1. ผู้ให้บริการตกลงให้ผู้ใช้บริการใช้อุปกรณ์เป็นจำนวน 1 (หนึ่ง) ชุด ตลอดอายุสัญญานี้ โดยผู้ใช้บริการตกลงให้ผู้ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ ณ สถานที่ติดตั้งตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร ดังนี้
  5.1.1. ชุดจานรับสัญญาณดาวเทียม (Fixed Antenna 1.2m Ku-Band, OMT/Feed Ku-band, BUC 2W Ku-band, LNB- Ku-band, Antenna stand 2m)
  5.1.2. อุปกรณ์ Indoor Unit (Satellite Modem, AC Power Supply)อุปกรณ์ตาม 5.1.1 และ 5.1.2 รวมตลอดถึงอุปกรณ์ที่ผู้ให้บริการได้มีการติดตั้งเพิ่มเติมในภายหลัง (ถ้ามี) ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้บริการและให้ผู้ใช้บริการครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ตามสัญญานี้เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องมีหน้าที่ดูแลรักษาอุปกรณ์อย่างดีและปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ระบุในคู่มือการใช้งานอุปกรณ์และบริการอินเทอร์เน็ตอย่างเคร่งครัด
• 5.2. ในกรณีที่ผู้ให้บริการต้องนำอุปกรณ์ไปติดตั้ง ณ สถานที่ติดตั้ง ตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร ผู้ใช้บริการจะต้องให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ให้บริการ เช่น จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมในการติดตั้งอุปกรณ์ ขออนุญาตเจ้าของสถานที่เพื่อการติดตั้งอุปกรณ์ รวมถึงเข้าตรวจสอบเพื่อซ่อมบำรุง การรักษาความปลอดภัยมิให้มีการสูญหาย การผ่านเข้า–ออกสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์
• 5.3. ผู้ใช้บริการรับรองและยืนยันว่าผู้ใช้บริการมีสิทธิครอบครองหรือได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่ติดตั้งตามที่ระบุในใบสมัคร หากมีผู้ใดโต้แย้งสิทธิหรือเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ให้บริการ อันเนื่องมาจากการติดตั้งอุปกรณ์ของผู้ให้บริการในสถานที่ดังกล่าว ผู้ใช้บริการตกลงรับผิดชอบในความเสียหายตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ให้บริการต้องเสียไปเพื่อการต่อสู้หรือโต้แย้งสิทธิทั้งสิ้น
• 5.4. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขในสัญญาข้อ 5 นี้จนเป็นเหตุให้ผู้ให้บริการหรือบุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย ผู้ใช้บริการตกลงจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
• 5.5. ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่นำอุปกรณ์ไปจำหน่าย ให้เช่า ให้ยืม ยกให้ หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการให้อุปกรณ์พ้นไปจากความครอบครองของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ผู้ให้บริการก่อน และจะไม่ใช้อุปกรณ์ไปในทางที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งจะไม่เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือทำให้เลขหมายประจำตัวของทรัพย์สินลบเลือน และจะใช้สอยอุปกรณ์ตามประเพณีนิยมด้วยความระมัดระวัง จะดูแลเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย จะบำรุงรักษาซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดีอยู่เสมอ และยอมให้ผู้ให้บริการหรือตัวแทนของผู้ให้บริการเข้าตรวจดูได้เสมอ ในกรณีที่อุปกรณ์ถูกโจรกรรม หรือได้รับความเสียหายเนื่องอัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด หรือถูกริบ ไม่ว่าโดยเหตุใดๆ ผู้ใช้บริการยอมรับผิดแต่เพียงฝ่ายเดียว และจะแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบทันที ตลอดจนจะรับผิดชอบในการติดตามฟ้องร้องเอาคืนอุปกรณ์ และตกลงยอมซ่อมแซมอุปกรณ์ให้คืนสภาพเดิม หรือยอมชดใช้เงินเท่ากับมูลค่าอุปกรณ์จนครบ ยกเว้นกรณีอุปกรณ์เสื่อมสภาพอันเกิดจากการใช้งานตามปกติ ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการกระทำดังกล่าวในข้อนี้โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการนั้น ถือเป็นการกระทำผิดสัญญาและกฎหมายซึ่งมีโทษทางอาญา
• 5.6. ผู้ใช้บริการจะต้องไม่ถอด ดัดแปลง ทำลาย หรือแก้ไข ซ่อมแซม อุปกรณ์ ไม่ว่าด้วยประการใดๆ และไม่เคลื่อนย้าย โยกย้าย อุปกรณ์ออกจากสถานที่ติดตั้งที่ระบุในใบสมัครโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการก่อน รวมทั้งจะไม่ทำการอื่นใดซึ่งอาจทำให้เกิดการเสื่อมค่า ความสูญหายหรือเสียหายแก่อุปกรณ์ดังกล่าว ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการกระทำดังกล่าวในข้อนี้โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการนั้น ถือเป็นการกระทำผิดสัญญาและกฎหมายซึ่งมีโทษทางอาญา
• 5.7. ผู้ให้บริการมีสิทธิเข้าไปในสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์ไว้ของผู้ใช้บริการ เพื่อทำการทดสอบปรับแต่ง เปลี่ยน หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้ใช้บริการแล้ว
• 5.8. ในระหว่างระยะเวลาการใช้บริการหากผู้ใช้บริการต้องการย้ายอุปกรณ์จากจุดติดตั้งเดิมไปจุดใหม่ ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้ชำระค่ารื้อถอนและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกิดขึ้น ตามอัตราค่าบริการรื้อถอนและติดตั้งอุปกรณ์ที่ผู้ให้บริการจะได้กำหนดและแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ โดยผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่ารื้อถอนและติดตั้งอุปกรณ์ตามข้อนี้ ให้แก่ผู้ให้บริการล่วงหน้า 7 (เจ็ด) วัน ก่อนวันที่จะมีการย้ายจุดติดตั้ง
• 5.9. เมื่อสัญญานี้ได้สิ้นสุดลงหรือถูกยกเลิกไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิเข้ายึดถือครอบครอง และรื้อถอนอุปกรณ์กลับคืนไปได้ทันที โดยผู้ให้บริการจะแจ้งผู้ใช้บริการล่วงหน้า และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิเข้าไปในสถานที่ติดตั้งเพื่อเข้ายึดถือครอบครองและรื้อถอนอุปกรณ์คืนได้ ทั้งนี้ หากมีความเสียหายแก่อุปกรณ์ ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

6. มาตรฐานการให้บริการ และการขัดข้องของบริการอินเทอร์เน็ต

• 6.1. ผู้ให้บริการตกลงให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยมีคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการได้โฆษณาไว้หรือตามที่ผู้ให้บริการได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ
• 6.2. ผู้ใช้บริการมีสิทธิได้รับส่วนลดค่าบริการในกรณีที่บริการอินเทอร์เน็ตเกิดเหตุขัดข้อง โดยมีเงื่อนไขดังนี้
  6.2.1. การขัดข้องของบริการอินเทอร์เน็ตเกิดจากความผิดพลาดของผู้ให้บริการ และการขัดข้องของอุปกรณ์มิได้เกิดจากความบกพร่องของผู้ใช้บริการ โดยบริการอินเทอร์เน็ตต้องขัดข้องเป็นเวลานานติดต่อกันตั้งแต่ 1 (หนึ่ง) ชั่วโมงขึ้นไป ยกเว้นกรณีตามข้อ 6.2.5
  6.2.2. ระยะเวลาที่จะถือเป็นบริการอินเทอร์เน็ตขัดข้องให้เริ่มนับตั้งแต่เวลาที่ผู้ให้บริการได้รับแจ้งการขัดข้องดังกล่าวจากผู้ใช้บริการผ่านช่องทางตามข้อ 6.3 จนถึงเวลาที่ผู้ใช้บริการสามารถ ใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้อีกครั้ง โดยผู้ให้บริการจะแจ้งไปยังผู้ใช้บริการทาง SMS ตามหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการ หรือช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด
  6.2.3. การคำนวณส่วนลดค่าบริการส่วนลดค่าบริการ เท่ากับ ชั่วโมงที่เกิดบริการขัดข้องตามข้อ 6.2.2 x ค่าบริการรายเดือน / 720 ชั่วโมง
  6.2.4. ส่วนลดค่าบริการที่คำนวณได้ตามข้อ 6.2.3 จะถูกนำไปหักลดค่าบริการตามที่ระบุใน ใบเรียกเก็บค่าบริการ ยกเว้นกรณีที่ผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการจะคืนค่าบริการดังกล่าวให้ผู้ใช้บริการตามวิธีการที่ผู้ให้บริการกำหนด
  6.2.5. ในกรณีต่อไปนี้จะไม่ถือว่าเป็นเหตุขัดข้องที่ผู้ใช้บริการจะได้รับส่วนลดค่าบริการ ตามข้อ 6 นี้
  6.2.5.1. บริการอินเทอร์เน็ตขัดข้องที่เกิดจากความบกพร่องของผู้ใช้บริการหรือจากการใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ไม่เป็นไปตามที่ผู้ให้บริการแนะนำ
  6.2.5.2. บริการอินเทอร์เน็ตขัดข้องที่เกิดจากสภาพของคลื่นวิทยุไม่เอื้ออำนวย หรือเกิดจากเหตุอื่นที่ผู้ให้บริการไม่สามารถควบคุมได้
  6.2.5.3. บริการอินเทอร์เน็ตขัดข้องที่เกิดจากอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเอง
  6.2.5.4. บริการอินเทอร์เน็ตขัดข้องที่เกิดจากกรณีตามข้อ 5.7 หรือระหว่างการย้ายจุดติดตั้งอุปกรณ์ตามข้อ 5.8
  6.2.5.5. กรณีที่เกิดสัญญาณรบกวนหรือการขัดข้องของสัญญาณหรือเหตุอื่นใดที่ไม่อยู่ในภาวะที่ผู้ให้บริการจะสามารถควบคุมหรือป้องกันได้ รวมถึงการขัดข้องของสัญญาณอันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ อาทิ Sun Outage (กรณีที่ดาวเทียมอยู่แนวเดียวกันระหว่างสถานีภาคพื้นดินและดวงอาทิตย์) ซึ่งทำให้ไม่สามารถรับ-ส่งสัญญาณดาวเทียมได้ หรือทำให้คุณภาพของสัญญาณด้อยไปจากเดิม และการขัดข้องอันเนื่องมาจาก การซ่อมบำรุงหรือทดสอบสถานีควบคุมดาวเทียมโดยผู้ให้บริการได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการ ได้ทราบล่วงหน้าแล้วตามช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด
  
• 6.3. ในกรณีที่เกิดการขัดข้องในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้บริการต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบตามช่องทางดังต่อไปนี้ และผู้ให้บริการจะดำเนินการแก้ไขเหตุขัดข้องเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติโดยเร็ว โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่เหตุขัดข้องนั้นเกิดจากการกระทำของผู้ใช้บริการหรือบริวารของผู้ใช้บริการ
  6.3.1. กรณีเป็นหนังสือ ส่งมาที่ สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม 50 หมู่ 1 ซอยวัดเจดีย์หอย ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมเเก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
  6.3.2. กรณีติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่น Line ติดต่อได้ทาง Line ID: @expressnet
  6.3.3. กรณีติดต่อทางโทรศัพท์ ติดต่อได้ที่หมายเลข ...........................................(โทรฟรี)
  6.3.4. กรณีติดต่อด้วยตนเอง ติดต่อได้ที่ สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม 50 หมู่ 1 ซอยวัดเจดีย์หอย ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมเเก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
  
• 6.4. ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการแก้ไขเหตุขัดข้องของการใช้บริการอินเทอร์เน็ต อาจกระทบข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นใดของผู้ใช้บริการ หากผู้ให้บริการได้แก้ไขเหตุขัดข้องดังกล่าวด้วยมาตรฐานวิชาชีพ ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายดังกล่าว

7. ความรับผิดต่อความเสียหาย

• 7.1. ผู้ใช้บริการต้องใช้ความระมัดระวัง กำกับดูแล และต้องไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้ ไปในทางที่ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น หากการกระทำใดๆ ของผู้ใช้บริการก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว
• 7.2. ผู้ใช้บริการต้องไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตไปในทางที่ผิดกฎหมาย หรือขัดต่อข้อกำหนดของผู้ให้บริการและ/หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
• 7.3. ผู้ใช้บริการจะต้องไม่นำบริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้ ไปใช้ในทางธุรกิจการค้า หรือในเชิงพาณิชย์ใดๆ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์แสวงหากำไรหรือไม่ก็ตาม เช่น การนำข้อมูลไปขายต่อ การฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดเงื่อนไขการใช้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นผลจากการฝ่าฝืนนั้น
• 7.4. ผู้ใช้บริการต้องใช้ความระมัดระวังและไม่กระทำการใดๆ ต่อบริการอินเทอร์เน็ตหรือโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อบุกรุกระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ไม่ว่าทั้งในระบบเครือข่ายของผู้ให้บริการเองและ/หรือระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้งาน
• 7.5. ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ต่อผู้ใช้บริการไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมที่ไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1.6 และที่อยู่นอกเหนือจากความควบคุมของผู้ให้บริการ รวมตลอดถึงเหตุที่วงจรสื่อสารต่างๆ ชำรุดบกพร่อง ขัดข้อง หรือไม่สามารถใช้การได้ หรือเกิดจากการที่ข้อความ ข่าวสาร ข้อมูล ภาพ หรือรหัสสัญญาณที่ผู้ใช้บริการใช้ในการติดต่อสื่อสารเกิดความล่าช้า เสียหาย หรือสูญหาย
• 7.6. ผู้ให้บริการไม่รับประกันในคุณภาพของ ข้อมูล ภาพ เนื้อหาข่าวสารที่ผู้ใช้บริการรับ-ส่งผ่านบริการอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายต่อผู้ใช้บริการอันเนื่องมาจากความล่าช้า ผิดพลาด ขาดตกบกพร่อง หรือการขัดข้องที่เกิดจากอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการเอง

8. การระงับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตชั่วคราว

• 8.1. กรณีมีเหตุจำเป็น ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอระงับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเป็นการชั่วคราวได้ โดยในการขอใช้สิทธิระงับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นการชั่วคราว ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 (สาม) วัน โดยแจ้งเป็นหนังสือหรือทำตามขั้นตอนและช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอระงับบริการอินเทอร์เน็ตชั่วคราวได้ไม่เกินปีละ 1 (หนึ่ง) ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันติดต่อกัน โดยในช่วงเวลาการระงับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตชั่วคราวนี้ผู้ใช้บริการไม่ต้องชำระค่าบริการให้แก่ผู้ให้บริการ
• 8.2. กรณีมีเหตุจำเป็น ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นการชั่วคราวต่อผู้ใช้บริการได้ โดยแจ้งเป็นหนังสือพร้อมทั้งระบุเหตุในการใช้สิทธิดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน
• 8.3. กรณีดังต่อไปนี้ผู้ให้บริการสามารถระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทันที
  8.3.1. กรณีเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นแก่ผู้ให้บริการ
  8.3.2. ผู้ใช้บริการถึงแก่ความตาย หรือได้กลายเป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
  8.3.3. ผู้ใช้บริการใช้เอกสารปลอมในการขอใช้บริการอินเทอร์เน็ต
  8.3.4. ผู้ให้บริการพิสูจน์ได้ว่าบริการอินเทอร์เน็ตที่ให้แก่ผู้ใช้บริการตามสัญญานี้ ถูกนำไปใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือฝ่าฝืนต่อสัญญา
  8.3.5. ผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดในใบเรียกเก็บค่าบริการ 2 (สอง) คราวติดต่อกัน
  8.3.6. ผู้ให้บริการพิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้บริการได้นำบริการอินเทอร์เน็ตตามสัญญานี้ไปใช้เพื่อแสวงหารายได้โดยมีเจตนาจะไม่ชำระค่าบริการ
  8.3.7. ผู้ให้บริการมีเหตุจำเป็นต้องบำรุงรักษาหรือแก้ไขระบบโทรคมนาคมที่ใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ต
  

9. การยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ต

• 9.1. ผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้โดยแจ้งผู้ให้บริการเป็นหนังสือล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 (ห้า) วัน ณ สำนักงานบริการ สำนักงานสาขาของผู้ให้บริการหรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ให้บริการ และ/หรือตามขั้นตอนและช่องทางการยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้ให้บริการกำหนดและประกาศไว้ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการครบถ้วนแล้วจนถึงวันที่การยกเลิกสัญญามีผลบังคับ
  9.1.1. กรณีผู้ใช้บริการตกลงสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต โดยขอรับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์ในวันที่สมัคร ผู้ใช้บริการจะต้องใช้บริการจนครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในใบสมัคร หากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตก่อนครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำ ผู้ให้บริการมีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์ในอัตราที่ได้มีการหักลดลงตามสัดส่วนที่ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตไปก่อนแล้ว เว้นแต่ กรณีเหตุแห่งการยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ไม่เป็นไปตามโฆษณาหรือมาตรฐานการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้ให้บริการได้แจ้งไว้ หรือเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการไม่มีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมด
  9.1.2. กรณีผู้ใช้บริการตกลงสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต โดยยินยอมชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์เต็มจำนวนให้แก่ผู้ให้บริการตั้งแต่วันที่สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต หากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตไม่ว่าเวลาใด ผู้ให้บริการตกลงจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
  
• 9.2. ในกรณีมีเหตุจำเป็นดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทันที
  9.2.1. ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการได้ด้วยเหตุที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ใช้บริการ
  9.2.2. ผู้ให้บริการได้ละเมิดข้อตกอันเป็นสาระสำคัญของสัญญา
  9.2.3. ผู้ให้บริการล้มละลาย
  9.2.4. ผู้ให้บริการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาหรือเงื่อนไขในการให้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งมีผลเป็นการลดสิทธิหรือประโยชน์อันพึงได้รับของผู้ใช้บริการลง เว้นแต่เกิดจากเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ
  
• 9.3. ผู้ให้บริการมีสิทธิยกเลิกการให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ในกรณีดังต่อไปนี้
  9.3.1. ผู้ใช้บริการถึงแก่ความตาย หรือได้กลายเป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
  9.3.2. ผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการเกินกว่าระยะเวลาการชำระค่าบริการที่กำหนดไว้ในใบเรียกเก็บค่าบริการ 2 (สอง) คราวติดต่อกัน โดยผู้ให้บริการได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบวันครบกำหนดชำระค่าบริการเป็นการล่วงหน้าในใบเรียกเก็บค่าบริการและได้แจ้งเตือนทาง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการตามระบุไว้ในใบสมัคร
  9.3.3. ผู้ให้บริการมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้ใช้บริการมีพฤติกรรมฉ้อฉลในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต หรือนำบริการอินเทอร์เน็ตไปใช้โดยผิดกฎหมาย หรือฝ่าฝืนข้อห้ามในสัญญา
  9.3.4. ผู้ให้บริการไม่สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตได้โดยเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ให้บริการ
  9.3.5. ผู้ใช้บริการได้โอนสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ใช้บริการตามข้อกำหนดของสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการ
  9.3.6. การยกเลิกโดยบทบัญญัติของกฎหมาย
  
• 9.4. เมื่อเลิกสัญญาไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ หากปรากฏว่าผู้ให้บริการมีเงินที่ได้รับมาจากผู้ใช้บริการเกินกว่าค่าบริการตามสัดส่วนของบริการที่ผู้ใช้บริการได้ใช้ไปจนถึงวันสุดท้ายที่ผู้ใช้บริการใช้บริการอินเทอร์เน็ตผู้ให้บริการจะคืนเงินส่วนที่เกินนั้นให้แก่ผู้ใช้บริการภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันเลิกสัญญา ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการต้องยื่นคำขอแจ้งความประสงค์พร้อมมอบหลักฐานยืนยันการเป็นผู้ใช้บริการที่แท้จริง ให้แก่ผู้ให้บริการ และผู้ให้บริการจะจ่ายคืนเป็นเงินสด หรือเช็ค หรือนำเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการ หรือตามวิธีการที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งความประสงค์ไว้
• 9.5. กรณีที่ผู้ให้บริการไม่สามารถคืนเงินตามข้อ 9.4 ได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้บริการต้องชำระค่าเสียประโยชน์ในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปีให้แก่ผู้ใช้บริการจนกว่าจะคืนเงินดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการได้ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ใช้บริการที่จะเรียกค่าเสียหายอย่างอื่น (ถ้ามี)
• 9.6. หากผู้ใช้บริการได้ใช้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์ในวันที่สมัคร และสัญญานี้ได้ถูกยกเลิกก่อนครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการขั้นต่ำอันเนื่องมาจากการที่ผู้ใช้บริการปฏิบัติผิดสัญญา ผู้ให้บริการมีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและ/หรือค่าติดตั้งอุปกรณ์ในอัตราที่ได้มีการหักลดลงตามสัดส่วนที่ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตไปก่อนแล้ว

10. ข้อกำหนดทั่วไป

• 10.1. ผู้ใช้บริการจะโอนสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ใช้บริการตามข้อกำหนดของสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นใดโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการมิได้
• 10.2. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเห็นว่า ผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าบริการสูงกว่าที่กำหนดไว้ หรือสูงกว่าที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการรายอื่นที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในลักษณะหรือประเภทเดียวกัน หรือเห็นว่าผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าบริการไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตของตนเองจากผู้ให้บริการได้ ผู้ให้บริการมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อยืนยันความถูกต้องของการเรียกเก็บค่าบริการดังกล่าว และต้องแจ้งข้อมูลให้ผู้ใช้บริการทราบโดยเร็วภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ผู้ใช้บริการมีคำขอ
• 10.3. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมสัญญานี้ตามที่ได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. หรือตามที่ กสทช. ประกาศกำหนด โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียน (call center) หรือผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการ